ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
กลับไปหน้าบล็อก
|24 ธันวาคม 2025

AI Layoffs 2025: เจาะลึกเบื้องหลังการเลิกจ้าง 50,000 ตำแหน่ง เมื่อ Amazon และ Microsoft ปรับทัพใหญ่

ปี 2025 กลายเป็นปีแห่งจุดเปลี่ยนเมื่อ AI ถูกระบุว่าเป็นสาเหตุของการเลิกจ้างกว่า 50,000 ตำแหน่ง โดยเฉพาะในยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon และ Microsoft บทความนี้เจาะลึกข้อมูลเบื้องหลังตัวเลข และสัญญาณเตือนภัยสำหรับแรงงานระดับ Entry-level

0 ครั้ง
AI Layoffs 2025: เจาะลึกเบื้องหลังการเลิกจ้าง 50,000 ตำแหน่ง เมื่อ Amazon และ Microsoft ปรับทัพใหญ่

AI Layoffs 2025: ความจริงเบื้องหลังการเลิกจ้าง 50,000 ตำแหน่งใน Amazon และ Microsoft

ตัวเลข 50,000 ไม่ใช่แค่สถิติ แต่มันคือสัญญาณเตือนภัยที่ชัดเจนที่สุดในปี 2025 ว่าปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เปลี่ยนจากการเป็นเครื่องมือช่วยงาน มาเป็นเหตุผลหลักในการลดจำนวนพนักงานอย่างเป็นทางการ รายงานล่าสุดจาก CNBC เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2025 เปิดเผยตัวเลขที่น่าตกใจนี้ โดยยืนยันว่าบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำได้ใช้ AI เป็นเหตุผลโดยตรงในการปรับลดขนาดองค์กร ซึ่งต่างจากปีก่อนหน้าที่มักอ้างเรื่องสภาวะเศรษฐกิจ

การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการปรับเปลี่ยนเชิงโครงสร้างที่รุนแรง บริษัทอย่าง Amazon และ Microsoft ไม่ได้เลิกจ้างเพราะขาดทุน แต่พวกเขากำลังถ่ายโอนงบประมาณมหาศาลจาก "แรงงานมนุษย์" ไปสู่ "พลังการประมวลผล" เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด นี่คือจุดเปลี่ยนที่แรงงานทั่วโลกต้องจับตามอง เพราะมันบ่งบอกว่าสมการความคุ้มค่าในการจ้างงานได้เปลี่ยนไปแล้วอย่างสิ้นเชิง

ไทม์ไลน์การเปลี่ยนแปลง: เมื่อตัวเลขฟ้อง (Layoff Timeline)

ข้อมูลจาก Challenger, Gray & Christmas ชี้ให้เห็นว่าปี 2025 คือปีแห่งการเร่งเครื่อง รายงานระบุว่าตัวเลขการเลิกจ้างในเดือนตุลาคม 2025 พุ่งสูงที่สุดเมื่อเทียบกับเดือนตุลาคมของทุกปีนับตั้งแต่ปี 2001 ซึ่งเป็นยุคฟองสบู่ดอทคอมแตก สถิตินี้สะท้อนให้เห็นว่าความพยายามในการนำ AI มาแทนที่งานประจำ (Routine Tasks) ได้เข้าสู่ระยะการปฏิบัติจริงอย่างเต็มรูปแบบแล้ว

Timeline Snapshot: 2025 The Year of Efficiency
Nov 6, 2025:* Bloomberg รายงานยอดการเลิกจ้างเดือนตุลาคมทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 20 ปี
Dec 21, 2025:* CNBC ยืนยันตัวเลขรวมกว่า 50,000 ตำแหน่งที่ถูกเลิกจ้างโดยมีสาเหตุเชื่อมโยงกับ AI
Dec 22, 2025:* TechCrunch และ Mashable เปิดเผยรายละเอียดว่ากลุ่ม Entry-level คือผู้ได้รับผลกระทบหนักที่สุด

Amazon และ Microsoft: ผู้นำเทรนด์การปรับทัพ

ในขณะที่หลายบริษัทอาจใช้คำพูดอ้อมค้อม แต่ยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon และ Microsoft กลับเลือกที่จะสื่อสารเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา Amazon ระบุอย่างชัดเจนในการประกาศปรับโครงสร้างว่า AI คือปัจจัยหลักที่ทำให้บริษัทต้องลดคนในบางแผนกเพื่อเพิ่มความคล่องตัว การเคลื่อนไหวนี้แสดงให้เห็นว่า Amazon มอง AI เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนองค์กร ไม่ใช่แค่ส่วนเสริมอีกต่อไป

ในทำนองเดียวกัน Microsoft ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างโดยอ้างถึง "ประสิทธิภาพจาก AI" (AI Efficiencies) ตามรายงานของ TechCrunch การตัดสินใจของทั้งสองบริษัทนี้ส่งผลกระทบในวงกว้าง เพราะเมื่อผู้นำตลาดขยับ บริษัทเทคโนโลยีขนาดกลางและเล็กมักจะเดินตามรอยเท้าเดียวกันเพื่อรักษาสภาพคล่องและความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี

วิกฤตแรงงานระดับต้น (The Entry-Level Crisis)

สิ่งที่น่ากังวลที่สุดจากข้อมูลชุดนี้ไม่ใช่จำนวนการเลิกจ้างทั้งหมด แต่คือ "ใคร" ที่ถูกเลิกจ้าง รายงานจาก Mashable ระบุชัดเจนว่าพนักงานระดับเริ่มต้น (Entry-level) คือกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด งานที่เคยเป็นบันไดขั้นแรกสำหรับเด็กจบใหม่ เช่น การเขียนโค้ดพื้นฐาน การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น หรือการบริการลูกค้า กำลังถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางวิกฤตนี้ยังมีความย้อนแย้งที่น่าสนใจ แม้จะมีการเลิกจ้างมหาศาล แต่ประกาศรับสมัครงานที่เกี่ยวข้องกับทักษะ AI เฉพาะทางกลับพุ่งสูงขึ้นถึง 30% ในช่วงปลายปี 2025 สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าตลาดไม่ได้ต้องการคนน้อยลงเสมอไป แต่ตลาดต้องการคนที่มีทักษะ "ที่ถูกต้อง" เท่านั้น ทำให้เกิดภาวะ Skills Mismatch หรือความไม่สอดคล้องของทักษะที่รุนแรงขึ้น

ผลกระทบทางเศรษฐกิจและสิ่งที่ต้องจับตามอง

ปรากฏการณ์ AI Layoffs 2025 ครั้งนี้คือการจัดสรรเงินทุนใหม่ (Capital Reallocation) ที่ชัดเจนที่สุด เงินทุนที่เคยถูกใช้จ้างพนักงานจำนวนมากกำลังถูกโยกไปลงทุนใน GPU, Cloud Computing และการจ้างผู้เชี่ยวชาญค่าตัวแพงเพียงหยิบมือ นี่คือรูปแบบเศรษฐกิจใหม่ที่เน้น "High Value, Low Headcount" หรือการสร้างมูลค่าสูงด้วยจำนวนคนที่น้อยลง

สิ่งที่ต้องจับตามองถัดไป (What to Watch Next)

  • งบประมาณปี 2026: ดูว่าบริษัทอื่นๆ จะประกาศแผนการลงทุน AI ควบคู่กับการลดคนแบบเดียวกันหรือไม่ในช่วงต้นปี
  • อัตราการว่างงานระยะยาว: กลุ่ม Entry-level ที่หลุดจากระบบจะสามารถ Reskill ได้ทันเวลาหรือไม่
  • กฎหมายแรงงาน: รัฐบาลต่างๆ อาจเริ่มเข้ามาแทรกแซงหากตัวเลขการเลิกจ้างยังพุ่งสูงต่อเนื่องโดยไม่มีมาตรการรองรับ

สำหรับธุรกิจและคนทำงาน บทเรียนจากปี 2025 คือความมั่นคงไม่ได้อยู่ที่ชื่อบริษัท แต่อยู่ที่ความสามารถในการทำงานร่วมกับ AI หากงานของคุณคือสิ่งที่ AI ทำได้เร็วกว่าและถูกกว่า ปีหน้าอาจเป็นปีที่ท้าทายยิ่งกว่าเดิม