
วิกฤตสตาร์ทอัพอินเดีย: 25 บริษัทปิดตัวปี 2025 สัญญาณเตือนภัย 'Funding Winter' ที่ยังไม่จบ
ปี 2025 กลายเป็นปีแห่งการล่มสลายของสตาร์ทอัพอินเดีย เมื่อ Inc42 รายงานว่ามีบริษัทถึง 25 แห่งต้องปิดตัวลง ท่ามกลางภาวะเงินทุนเหือดแห้งและกฎระเบียบที่รัดกุม สะท้อนถึงการปรับฐานครั้งใหญ่ที่ผู้ประกอบการต้องจับตามอง

วิกฤตสตาร์ทอัพอินเดีย: 25 บริษัทปิดตัวปี 2025 สัญญาณเตือนภัย 'Funding Winter' ที่ยังไม่จบ
23 ธันวาคม 2025 – ตัวเลขความสูญเสียทางธุรกิจที่น่าตกใจถูกเปิดเผยเมื่อ Inc42 รายงานว่ามีสตาร์ทอัพอินเดียถึง 25 แห่งต้องยุติการดำเนินงานในปีนี้เพียงปีเดียว ตัวเลขนี้ไม่ได้เป็นเพียงสถิติ แต่เป็นสัญญาณเตือนภัยระดับสีแดงสำหรับระบบนิเวศเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย
การปิดตัวลงอย่างต่อเนื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันมหาศาลที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญ ภาวะที่เรียกว่า "Funding Winter" หรือฤดูหนาวแห่งการระดมทุนที่ลากยาวมาตั้งแต่ปี 2022 ได้เริ่มส่งผลกระทบในวงกว้าง ผสมโรงกับมาตรการกำกับดูแลที่เข้มงวดขึ้น ทำให้ปี 2025 กลายเป็นบททดสอบที่โหดร้ายที่สุดสำหรับสตาร์ทอัพที่สายป่านไม่ยาวพอ
สรุปประเด็นสำคัญ (TL;DR)
- สถิติ: มีสตาร์ทอัพอินเดียปิดตัวลงอย่างเป็นทางการ 25 แห่งในปี 2025 ตามรายงานของ Inc42
- สาเหตุ: เกิดจาก "วิกฤตซ้อน" (Double-whammy) คือการขาดแคลนเงินทุนหมุนเวียนและแรงกดดันด้านกฎระเบียบ
- แนวโน้ม: ตัวเลขการปิดตัวพุ่งสูงขึ้นในช่วงปลายปี แม้ว่ากระแส AI ทั่วโลกจะดูคึกคักก็ตาม
- ผลกระทบ: ตลาดกำลังเข้าสู่โหมด "คัดกรองผู้รอดชีวิต" (Survival of the fittest) อย่างแท้จริงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับปี 2026
เจาะลึกสถานการณ์: เมื่อเงินทุนเหือดแห้ง
รายงานล่าสุดจาก Inc42 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2025 ได้ฉายภาพความจริงที่เจ็บปวดของวงการสตาร์ทอัพอินเดีย การที่บริษัท 25 แห่งต้องปิดกิจการลงในปีเดียวถือเป็นอัตราเร่งที่น่ากังวลเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ปรากฏการณ์นี้ชี้ให้เห็นว่าโมเดลธุรกิจแบบ "Burn-to-grow" หรือการเผาเงินเพื่อสร้างการเติบโตนั้นใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไปในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน
ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการล่มสลายครั้งนี้คือภาวะขาดแคลนเงินทุนที่รุนแรง นักลงทุนเริ่มระมัดระวังตัวอย่างมากหลังจากผ่านพ้นรอบการเลือกตั้งและสภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่ไม่แน่นอน สตาร์ทอัพหลายรายที่ไม่สามารถระดมทุนรอบใหม่ได้ทันเวลาจึงประสบปัญหาสภาพคล่องจนต้องยุติกิจการ นอกจากนี้ แรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลของอินเดียยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ซ้ำเติมให้การดำเนินธุรกิจมีความซับซ้อนและต้นทุนสูงขึ้น
ข้อมูลน่าสนใจ: แม้ว่าทั่วโลกจะตื่นตัวกับการลงทุนใน AI แต่สตาร์ทอัพอินเดียในภาคส่วนอื่นๆ กลับเผชิญความยากลำบากในการดึงดูดเม็ดเงิน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่สมดุลของกระแสเงินทุนในปัจจุบัน
สิ่งที่คนส่วนใหญ่มองข้าม
ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยคือการมองว่าการปิดตัวเหล่านี้เกิดจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของผู้ก่อตั้งเพียงอย่างเดียว แต่ในความเป็นจริง ข้อมูลชี้ให้เห็นว่านี่คือปัญหาเชิงโครงสร้าง หลายบริษัทที่ปิดตัวลงเป็นสตาร์ทอัพในระดับ Pre-Series A ที่มีศักยภาพ แต่ถูกตัดวงจรชีวิตเร็วเกินไปเนื่องจากระบบนิเวศการลงทุนที่หดตัวลงอย่างรวดเร็ว การปิดตัวเหล่านี้มักเกิดขึ้นอย่างเงียบๆ และไม่ถูกรายงานจนกว่าจะมีการรวบรวมข้อมูลสรุปปลายปี
นัยสำคัญต่อปี 2026
การล่มสลายของ 25 บริษัทในปี 2025 นี้อาจมองได้ว่าเป็น "การล้างไพ่" (Purge) ที่จำเป็น เพื่อให้ระบบนิเวศก้าวเข้าสู่ปี 2026 ด้วยความแข็งแกร่งขึ้น บริษัทที่รอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้จะเป็นบริษัทที่มีพื้นฐานทางธุรกิจที่แท้จริง ไม่ได้พึ่งพาเพียงกระแสเงินทุนฉาบฉวย ผู้ประกอบการและ SME ในอินเดียและเอเชียต้องปรับตัวด้วยการมุ่งเน้นที่ผลกำไร (Profitability) มากกว่าการเติบโตแบบก้าวกระโดดเพียงอย่างเดียว
สิ่งที่ต้องจับตามองต่อไป
- กลยุทธ์การอยู่รอด: สตาร์ทอัพจะหันมาควบรวมกิจการ (M&A) มากขึ้นเพื่อความอยู่รอดหรือไม่
- นโยบายรัฐ: จะมีการผ่อนปรนกฎระเบียบเพื่อช่วยพยุงระบบนิเวศในช่วงต้นปี 2026 หรือไม่
- การกลับมาของ VC: จับตาสัญญาณการลงทุนรอบใหม่หลังจากตลาดได้ปรับฐานราคา (Valuation correction) แล้ว

